วันพฤหัสบดีที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2566

เอเลียนทุกเผ่าพันธุ์เป็นภัยต่อมนุษยชาติ แม้แต่พวกที่ต้องการผูกมิตร

 เอเลียนทุกเผ่าพันธุ์เป็นภัยต่อมนุษยชาติ แม้แต่พวกที่ต้องการผูกมิตร



เมื่อคนเราจินตนาการถึงความเป็นไปได้ที่เอเลียนอาจบุกยึดครองหรือทำลายล้างโลก คนส่วนใหญ่มักมองว่านี่คือภัยคุกคามเดียวที่สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจากต่างดาวจะนำพามาสู่มนุษยชาติได้ 

อย่างไรก็ตาม งานวิจัยล่าสุดที่กำลังจะลงตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Space Policy กลับพบว่า แม้แต่การติดต่อสื่อสารเพื่อทักทายเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเอเลียนเผ่าพันธุ์ที่เป็นมิตร ก็อาจทำให้โลกปั่นป่วนและประสบหายนะจากวิกฤตความขัดแย้งในเวทีการเมืองระหว่างประเทศได้ หากชาติมหาอำนาจต่างแย่งกันเข้าครอบครองช่องทางสื่อสารนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว

รายงานวิจัยดังกล่าวซึ่งขณะนี้เผยแพร่ทางคลังเอกสารวิชาการออนไลน์ arXiv.org มีชื่อว่า “ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์ หากโครงการค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาว (SETI) ประสบความสำเร็จ” (Geopolitical Implications of a Successful SETI Program) เขียนโดยนักวิทยาศาสตร์ 3 คนที่มีความคุ้นเคยกับองค์การนาซาและโครงการ SETI เป็นอย่างดี นำโดยศาสตราจารย์ เจสัน ที. ไรต์ จากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตตของสหรัฐฯ

รายงานวิจัยนี้สนับสนุนข้อสันนิษฐานของบทความ “การค้นหาสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาต่างดาว: ข้อควรพิจารณาว่าด้วยการเมืองสัจนิยม” ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารเดียวกันเมื่อปี 2020 โดยงานวิจัยทั้งสองชิ้นมองว่า ภัยคุกคามจากเอเลียนที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด และจะเกิดขึ้นจริงหากเริ่มมีการจับสัญญาณสื่อสารจากต่างดาวได้ ก็คือภัยความขัดแย้งทางการเมืองซึ่งเป็นผลมาจากธรรมชาติที่เห็นแก่ตัวของมนุษย์นั่นเอง

ทีมผู้วิจัยมองว่า อำนาจและผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมจากการเข้าผูกขาดช่องทางติดต่อสื่อสารกับเอเลียน จะเป็นสิ่งจูงใจให้บรรดาชาติมหาอำนาจพยายามแย่งชิง เพื่อเข้าครอบครองช่องทางสื่อสารนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากอาจเป็นโอกาสเข้าถึงความรู้และเทคโนโลยีระดับสูง รวมทั้งทรัพยากรล้ำค่าอื่น ๆ จากอารยธรรมต่างดาวที่เป็นมิตรและเต็มใจแบ่งปัน จนอาจนำไปสู่ภาวะวิกฤตในเวทีการเมืองโลกหรือแม้แต่สงครามได้


แต่ถึงกระนั้นก็ตาม งานวิจัยชิ้นล่าสุดไม่เห็นด้วยกับงานวิจัยของปี 2020 ตรงที่ว่า สภาพการณ์เลวร้ายที่ชาติมหาอำนาจเข้าต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงช่องทางสื่อสารกับเอเลียนนั้น ถือเป็นสภาพการณ์เดียวที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

งานวิจัยล่าสุดของ ศ. ไรต์ และคณะมองว่า ยังมีสภาพการณ์อื่น ๆ อีกหลายแบบที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต หากมนุษย์สามารถจับสัญญาณสื่อสารจากเอเลียนได้จริง พวกเขาไม่เชื่อว่าชาติมหาอำนาจโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาติที่มีความเป็นประชาธิปไตย จะสามารถปกปิดและผูกขาดการติดต่อกับเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาต่างดาวเอาไว้ได้ 

งานวิจัยของ ศ. ไรต์ ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า เนื่องจากโลกของวิทยาการตะวันตกนั้นเชื่อมต่อและบูรณาการเข้าด้วยกันอย่างเหนียวแน่นและซับซ้อน ด้วยเครือข่ายความร่วมมือต่าง ๆ ที่ไม่อาจแยกขาดออกจากกัน ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้สภาพการณ์ต่อสู้แย่งชิงช่องทางสื่อสารกับต่างดาวเกิดขึ้นได้ หากบรรดาผู้นำประเทศต่าง ๆ และคนในแวดวงวิทยาศาสตร์มีความโปร่งใส แบ่งปันข้อมูลสู่ประชาชนอย่างเพียงพอ

“การปิดกั้นสถานที่วิจัยเกี่ยวกับเอเลียน โดยล้อมรั้วรอบขอบชิดแน่นหนาและวางกำลังทหารรักษาการณ์ ยิ่งทำให้ผู้คนสงสัยและปักใจเชื่อว่า กำลังมีบางสิ่งที่จะนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ระดับพลิกโลกเกิดขึ้น ส่งผลให้มีการใช้สายลับสืบหาความจริง และการหักเหลี่ยมเฉือนคมทางการเมืองเพื่อแย่งชิงข้อมูลกันในที่สุด” ทีมผู้วิจัยกล่าวสรุป 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น